โรคหัวใจ และหลอดเลือด เป็นสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิต และเป็นโรคที่พบได้มากทั่วโลก การวิจัยล่าสุดพบว่า การตรวจ Apolipoprotein B (Apo B) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของไขมัน และโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งไขมันในเลือดไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ร่วมกับการตรวจ LDL ในเลือดสามารถช่วยประเมินความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ดีกว่าการตรวจ LDL เพียงอย่างเดียว เนื่องจากอนุภาคของไขมันหนึ่งโมเลกุลที่ไปสะสมที่หลอดเลือดทุกตัว ไม่ว่าจะเป็น VLDL, IDL และ LDL จะมี Apo B อยู่หนึ่งตัว ซึ่งจะสะท้อนค่าความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบางกรณีที่ผู้ป่วยมีระดับ LDL ในเลือดที่เป็นปกติ แต่ค่า Apo B สูง ซึ่งอาจแสดงถึงการสะสมไขมันในหลอดเลือดที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด

          นอกจากนี้ยังสามารถใช้ อัตราส่วนระหว่าง Apo B ต่อ Apo A (Apo B : Apo A) เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีกว่าของความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือด โดย Apo A  จะมีบทบาทในการนำไขมันไปสู่ตับ และช่วยลดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด Apo A เป็นสารประกอบไขมันและโปรตีนที่เป็นองค์ประกอบของ HDL โดยระดับของ Apo A มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น และลดลงพร้อมกับระดับของ HDL

          ดังนั้น การตรวจวัดระดับ Apo B อาจเป็นวิธีที่ดีกว่าในการคาดคะเนความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือด เนื่องจากมีความสามารถในการบอกความเสี่ยงของโรคได้มากกว่าระดับ LDL นอกจากนี้ Apo B ยังสามารถช่วยกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด

       การวัดปริมาณ Apolipoprotein A-1 และApolipoprotein B ทำด้วยหลักการ Immunoturbidimetric assay คือการวัดระดับความขุ่นของ complex ที่เกิดจากการจับกันระหว่าง Apo B antigen ที่อยู่ในเลือดกับ Apo B antibody  ที่อยู่ในน้ำยาตรวจวิเคราะห์ ด้วยเครื่องตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติ ซึ่งรายงานผลการตรวจเป็นตัวเลขในหน่วย mg/dL ทำให้มีความเหมาะสมสำหรับการกำหนดแผนการรักษา

N Health เปิดให้บริการ Apolipoprotein ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 

ที่มา :   
- Apolipoprotein B and Cardiovascular Disease: Biomarker and Potential Therapeutic Target  Jennifer Behbodikhah, Saba Ahmed, Ailin Elyasi, Lora J. Kasselman, Joshua De Leon, Amy D. Glass, and Allison B. Reiss*
- Packing insert Apolipoprotein B for use with Aliniti c