ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C virus) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อโรคตับอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลกปี 2019 พบว่ามีผู้ป่วยตับอักเสบซีเรื้อรัง (Chronic Hepatitis C virus infection) ประมาณ 58 ล้านคนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณ 4 แสนคนต่อปี ไวรัสตับอักเสบซีสามารถติดต่อได้ทางเลือด จากแม่สู่ลูก และทางเพศสัมพันธ์ ผู้ติดเชื้อประมาณ 55-85% จะพัฒนาไปสู่โรคตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นตับแข็งและมะเร็งตับในที่สุด ปัจจุบันแพทย์สามารถตรวจโรคไวรัสตับอักเสบซีได้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม รวมถึงสามารถตรวจได้ว่าไวรัสตับอักเสบซีนั้นเป็นสายพันธุ์ย่อยสายพันธุ์ใด นอกจากนี้ยังมียาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการตรวจหาผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพจะช่วย
ให้ผู้ที่ติดเชื้อมีโอกาสเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น

         Hepatitis C Antigen (HCV Ag) เป็น marker ที่ช่วยในการวินิจฉัยโรคไวรัสตับอักเสบซี สามารถใช้ในการตรวจวินิจฉัยและติดตามการรักษาได้ด้วย ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของ  WHO ปี  2017, EASL  (European  Association  for  the  Study of  the  Liver)  ปี 2016 และ “แนวทางการตรวจคัดกรอง
และรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ซี เพื่อเพิ่มการเข้าถึงยาต้านไวรัส” ของกรมควบคุมโรคประเทศไทย

ประโยชน์ของการตรวจ HCV Ag
             HCV Ag ตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ ซึ่งตรวจพบก่อน Anti HCV ใช้ได้สำหรับการตรวจคัดกรอง ตรวจวินิจฉัย และติดตามการรักษาการติดเชื้อ HCV 
             ผลการทดสอบ HCV Ag ที่ได้ มีความสอดคล้องกับการตรวจ PCR for HCV ถึง 97% ทำให้ HCV Ag สามารถใช้เป็นการทดสอบทางเลือกแทนวิธี PCR for HCV ได้เนื่องจากมีราคาถูกกว่าและรายงานผลได้เร็วกว่า
             การตรวจทางห้องปฏิบัติการสำหรับการวินิจฉัยโรค Hepatitis C เริ่มด้วยการตรวจคัดกรองด้วยการตรวจ HCV Antibody (Anti-HCV) หากให้ผลบวก ให้ยืนยันด้วยการตรวจ HCV core antigen (cAg) หรือ HCV RNA ซึ่งการตรวจ HCV antigen ของห้องปฏิบัติการ ใช้หลักการ Chemiluminescent Microparticle Immunoassay (CMIA) โดยจะรายงานผลเป็นตัวเลขในหน่วย fmol/L และแปลผล Reactive เมื่อค่าที่ได้มากกว่าหรือเท่ากับ 3.00 fmol/L ซึ่งหมายความว่ามีการติดเชื้อ HCV 

N Health เปิดให้บริการ Hepatitis C โดยมีรายละเอียดดังนี้

ที่มา :   
• https://www.who.int/publications/i/item/9789240052734
• https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/27678366 
• http://haamor.com/th/โรคไวรัสตับอักเสบซี
• https://www.researchgate.net/publication/317004796_Abbott_HCV_Core_Antigen_and_HCV_RNA_comparison_study_in_country_of_Georgia
• http://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/254621/9789241549981-eng.pdf?sequence=1
• แนวทางการตรวจคัดกรองและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ซี เพื่อเพิ่มการเข้าถึงยาต้านไวรัส ของศูนย์ประสานงานโรคตับอักเสบจากไวรัส กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค