การแพ้อาหารแบบแฝง (Food Intolerance) จะแตกต่างจากการแพ้อาหารแบบเฉียบพลัน (Food Allergy) ตรงที่ไม่แสดงอาการในทันที โดยอาการจะปรากฏแตกต่างกันในแต่ละบุคคล อาการมักไม่รุนแรงแต่จะเรื้อรัง เช่น ปวดศีรษะไมเกรน ปัญหาสมาธิสั้น คัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง ผื่นลมพิษที่ไม่ทราบสาเหตุ ท้องเสีย ลำไส้อักเสบ ท้องผูก จุกเสียดแน่นท้อง น้ำหนักขึ้นง่าย หรือปวดกล้ามเนื้อ หากเรายังคงรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยานี้ต่อเนื่อง อาจนำไปสู่ปัญหาเรื้อรัง เช่น ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือแม้กระทั่งการรบกวนระบบประสาทและความจำ เช่น ในภาวะสมาธิสั้น หรือไมเกรน
ภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance) คืออะไร?
ภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance) คือปฏิกิริยาของร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อรับประทานอาหารบางชนิด ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมได้อย่างปกติ โดยอาการของการแพ้อาหารแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นทันทีหลังจากทานอาหาร แต่จะค่อย ๆ ปรากฏอาการภายในหลายชั่วโมงหรือหลายวันหลังจากการรับประทานอาหารบางชนิด อาการที่เกิดขึ้นมักไม่รุนแรง แต่จะเป็นอาการเรื้อรังที่สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้
อาการภูมิแพ้อาหารแฝงมีอะไรบ้าง?
1. ปวดหัวเรื้อรัง
2. ไมเกรน
3. ภาวะสมาธิสั้น
4. คัดจมูก
5. น้ำมูกไหลเรื้อรัง
6. ผื่นลมพิษ
7. ท้องเสีย
8. ลำไส้อักเสบ
9. ท้องผูก
10. จุกเสียดแน่นท้อง
11. น้ำหนักขึ้นง่าย
12. ปวดกล้ามเนื้อ
โดยอาการจะปรากฏแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ในผู้ที่มีอาการปวดศีรษะหรืออ่อนเพลียเรื้อรังจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือผู้ที่มีสิวอักเสบเรื้อรังที่รักษาด้วยวิธีต่างๆ แล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในอนาคต รวมถึงอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางชนิดได้
ภูมิแพ้อาหารแฝง แค่ตรวจเลือดก็รู้ได้
การตรวจเลือดสามารถช่วยในการตรวจหาภูมิแพ้อาหารแฝงได้บางกรณี โดยการตรวจหาภูมิแพ้จากแอนติบอดี IgG ซึ่งอาจแสดงผลการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่ออาหารบางชนิด แต่ผลการตรวจนี้อาจไม่ได้บ่งชี้ถึงการแพ้ที่มีอาการชัดเจนเสมอไป เนื่องจากบางครั้งการแพ้อาหารแฝงอาจไม่แสดงอาการเด่นชัด และสามารถเกิดขึ้นได้ในระยะยาว การตรวจเลือดจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการวินิจฉัย และควรได้รับการพิจารณาควบคู่กับประวัติสุขภาพและอาการของผู้ป่วยจากแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
N Health ขอแนะนำโปรแกรมการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง 222 ชนิด ที่จะสามารถบอกผลได้อย่างละเอียดเลยว่า ร่างกายของคุณควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหน แล้วควรรับประทานอาหารประเภทไหน เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นค่ะ