โรคเบาหวาน เป็นโรคที่พบในคนไทยและพบได้ในทุกช่วงอายุ อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปีโดยเฉพาะโรคเบาหวานในเด็กส่วนใหญ่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งพบได้ประมาณ 5-10% ของโรคเบาหวานทุกประเภท ปัจจุบันปัญหาโรคอ้วนมีเพิ่มขึ้นทั่วโลก จึงส่งผลให้เด็กและวัยรุ่นมีโอกาสเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้นด้วย
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 มีสาเหตุจากเบต้าเซลล์ (Beta cells) ของตับอ่อน ถูกทำลายจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำงานผิดปกติ ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินให้เพียงพอ ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในกระแสเลือดสูง จึงต้องได้รับการรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 นี้พบได้ทุกช่วงอายุ แต่จะพบมากในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น หากพบในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างภูมิคุ้มกันทำลายตนเองแบบช้า ๆ (Latent Autoimmune Diabetes in Adults หรือ LADA) อาจทำให้วินิจฉัยผิดเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
Anti GAD และ Anti IA2 เป็นการทดสอบหาแอนติบอดี้ต่อ Glutamic acid decarboxylase (GAD) และ Tyrosine phosphatase (IA2) ซึ่งเป็น Auto-immune antibody ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาสามารถตรวจพบได้ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 แต่จะตรวจไม่พบแอนติบอดี้ชนิดนี้ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ทำให้สามารถช่วยวินิจฉัยแยกผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 กับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ การแยกเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2 ได้จะทำให้ผู้ป่วยเบาหวานได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม
N Health เปิดให้บริการ Anti GAD และ Anti IA2 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ที่มา :
• http://www.diabassocthai.org/sites/default/files/briefingbook_38.pdf
• https://cimjournal.com/confer-update/guideline-t1dm/