บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยการมีก้อนตามอวัยวะต่าง ๆ ได้รับการรักษาหลากหลายวิธีแต่อาการก็ยังคงอยู่ อาจเกิดจากโรคที่เรียกว่า IgG4-related disease (IgG4-RD) ซึ่งเป็นโรคที่มีพังผืดตามอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย จนทำให้เกิดการอักเสบหรือมีก้อนบริเวณนั้น ๆ มักพบรอยโรคที่ตับ ไต ดวงตา ต่อมน้ำลาย และโพรงหลังเยื่อบุช่องท้อง
เมื่อตรวจทางพยาธิวิทยาจากอวัยวะดังกล่าวจะพบลักษณะ lymphoplasmacytic infiltration เมื่อย้อม immunohistochemistry เพิ่มเติมจะพบว่ามีสัดส่วนของ IgG4–positive ต่อ IgG–positive plasma cells มากกว่า 40% และพบพังผืดในลักษณะคล้ายกงล้อเกวียนที่เรียกว่า storiform fibrosis และหากตรวจ serum IgG4 level จะพบค่าสูงกว่าปกติ 70% - 80% ของผู้ป่วย โดยระดับของ IgG4 ในเลือดที่สูงกว่าค่าปกติมากกว่าสองเท่านั้นจะจำเพาะต่อโรค IgG4-related disease มากถึง 99%
นอกจาก IgG4-related disease แล้ว serum IgG4 ยังมีความสำคัญในการวินิจฉัยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยมีการติดเชื้อซ้ำ ๆ โดยใช้การแปลผลร่วมกับ Immunoglobulin ชนิดอื่น ๆ เช่น IgG2 หรือ IgA เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการตรวจ serum IgG4 มีความสำคัญมากในการวินิจฉัยโรคให้มีความถูกต้องและแม่นยำ
การตรวจระดับ IgG4 ในเลือดนั้นใช้หลักการ Particle enhanced immunonephelometry โดยใช้ Polystyrene particle coat ด้วย specific antibody ต่อ IgG4 เมื่อ particle จับกับ IgG4 ในเลือดของคนแล้ว จะทำให้เกิดการจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน โดยเครื่องจะยิงแสงและวัดความเข้มแสงที่กระเจิงออกมาเป็นความเข้มข้น โดยเทียบกับกราฟมาตรฐานที่ได้จากการวัดสารมาตรฐานที่ทราบค่า แล้วรายงานผลเป็นตัวเลขในหน่วย mg/dL
N Health เปิดให้บริการ Immunoglobulin IgG subclass 4 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ที่มา :
• https://primaryimmune.org/about-primary-immunodeficiencies/specific-disease-types/igg-subclass-deficiency
• https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK499825/
• https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0009898120301479?via%3Dihub
• รายงานผู้ป่วย IgG4–related lymphadenitis and pachymeningitis with inflammatory pseudotumor
หน่วยโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
• Atellica® NEPH 630 System / BN II System / BN ProSpec® System package insert
